SF MIR : Behide The Sence [BoomPeak]
หลังจากซีรี่ย์จบซีซั่นไปบูมได้ย้ายมาเรียนที่เดียวกับพีคด้วยเหตุผลบางอย่าง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ในเรื่องเลยค่ะ ^^
ผู้เข้าชมรวม
2,972
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
Behide the Sence
***ฟิคเรื่องนี้เกิดจากการมโนของไรท์ล้วนๆมีเรื่องจริงเกี่ยวข้องแค่บางส่วนขอให้ใช้วิจราณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ***
PEAK Part.
โรงเรียนอัสสัมชัน บางรัก ห้องม.5/1
“อะแฮ่ม
! วันนี้ห้องเราจะมีนักเรียนใหม่เข้ามากลางเทอมนะ เขาเป็นนักเรียนรุ่นน้องพวกเธอ
ที่สำคัญอาจารย์อยากให้พวกเธอช่วยกันดูแลเพื่อนด้วย คงทำกันได้นะ”
“อ้าว
แล้วทำไมน้องเขาไม่เข้าเรียนม.4ล่ะจารย์ ไหงมาเข้าม.5อ่ะครับ” เป็นผมที่ถามออกไปอย่างสงสัยเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆรุ่นน้องม.4ถึงมีสิทธิ์เข้ามาเรียนในชั้นม.5ได้
“เพราะเนื้อหาของม.4ที่เราสอนกฤตภัคเขาเรียนไปหมดแล้วน่ะสิ
เลยต้องให้ขึ้นมาเรียนกับพวกเธอแทนน่ะ เอาล่ะอย่าถามมากครูต้องรีบไปประชุม อีก 5
นาทีเพื่อนคงมาถึงห้องเรียนอาจารย์ฝากเธอดูแลด้วยล่ะภีมพล” พูดจบอาจารย์ก็ออกจากห้องไปทันที
“ห๊ะ
!? ทำไมต้องผมอ่ะจารย์ จ๊ารย์ !!!!!”
“มึงแม่งโชคร้ายโคตรอ่ะไอพีค
5555555” เป็นไอโอมที่เข้ามาเย้ยผมทันทีที่ครูออกไป
“มึงไม่ต้องมาพูดเลยไอโอม
มึงไม่โดนก็ไม่ต้องเครียดดิวะ แม่งงงง วันซวยอะไรของกูเนี่ย” ผมพูดอย่างหัวเสีย อะไรกันวะเนี่ย ไหงผมต้องมาทำหน้าที่ดูแลเด็กใหม่ด้วย
โอ๊ยยยย พีคไม่อยากทำ แงงงง
“เอาน่า
น้องเขาชื่อไรนะ กฤตภัคใช่ป่ะวะ นี่ไงชื่อเดียวกับไอบูมเลย มึงก็คิดซะว่ากำลังดูแลบูมมันไปดิ
ไอบูมแฟนมึงไม่ใช่ไง 55555555” ตลกเหอะ
คิดว่าดูแลไอบูมเนี่ยนะ ..
“แฟนพ่องเหอะกูไม่ใช่มึงนะเว้ย
กูไม่ได้คบกับไอบูมในชีวิตจริงซะหน่อย ที่คบกันนั่นมันธีร์กับฟิวส์เหอะ”
“ครับๆๆครับบบบ
กูจะจำไว้ว่าไอ้คุณภีมพลไม่ได้คบกับไอ้คุณกฤตภัค แต่อย่าให้เห็นว่าเป็นแบบในซีรี่ย์นะ
กูจะตามพวกมาล้อให้หมดเลยตั้งแต่ไอไนซ์ยันพี่บอน์นเลย”
“คบก็เชี่ยแล้วป่ะ
ไม่มีทางหรอก มึงแม่งคิดเยอะว่ะ พอๆ ไปนั่งที่ไปมึงอ่ะ เดี๋ยวจะเข้าคาบต่อไปแล้ว”
ผมบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก
เพราะส่วนตัวผมเองผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับบูมมากไปกว่าคำว่าน้องชาย
เวลาที่เล่นกันบนเวทีช่วงที่โปรโมทซีรี่ย์ ตอนที่พวกผมกอดกัน เล่นเกมส์แผ่นใส
หรืออะไรก็ตามผมคิดว่าตัวผมเองไม่ได้เขินนะ .. ผมคิดว่ามันเป็นแบบนั้น ล่ะมั้ง
“นั่งที่ให้เรียบร้อยซิพวกเธอ ! เอาล่ะ นักเรียนใหม่เข้ามาแนะนำตัวเลยค่ะ”
BOOM Part.
“สวัสดีครับ ผม ‘กฤตภัค อุดมพานิช
บูม’ ครับ ฝากตัวด้วยครับรุ่นพี่”
ผมแนะนำตัวตามปกติแล้วหันไปมองคนที่ผมอยากเจอที่สุดที่ตอนนี้หน้าเหวอไปเรียบร้อยแล้ว
“เหยดดดดด ไอคุณพีคครับ แฟนมึงตามมาคุมถึงที่เลยนี่หว่า
55555555555” เสียงไอโอมที่พูดขึ้นหลังผมแนะนำตัวเสร็จพร้อมกับเสียงหัวเราะจากทั้งห้องเรียนที่กำลังแกล้งคนตัวขาวตรงนั้น
“ฟะ .. แฟนก็เชี่ยแล้ว มึงเงียบปากดิ๊” คนที่ตอนแรกเหวอเพราะเห็นผมตอนนี้กำลังเถียงไม่ออกเพราะคำพูดของเพื่อนสนิทตัวเอง
“เงียบเดี๋ยวนี้เลยนะ ! ภวัต
ออกไปลุกนั่งหน้าห้อง 30 ครั้งเดี๋ยวนี้เลย ส่วนกฤตภัคไปนั่งกับภีมพลนะ
พี่เขาจะคอยดูแลเธอตลอดเทอมนี้” ผมว่าผมได้ยินเสียงโอดครวญของไอโอมนะ
5555555555
“ครับ ขอบคุณครับ” ว่าจบผมก็รีบเดินไปนั่งข้างๆกับคนตัวขาวทันที
คุ้มแฮะ ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ขอป๊ากับม๊าย้ายมากลางเทอมแบบนี้ล่ะนะ หึหึ
ได้เจอกันแล้วนะครับ คุณพีคดุ๊กดิ๊ก
“ทำไม .. เป็นมึงวะ ตะ .. ตอนแรกกูก็คิดว่าแค่ชื่อคล้าย”
“ก็ .. ผมแค่ไม่อยากนั่งเครื่องบ่อยๆอ่ะ เลยขอป๊ากับม๊าย้ายมาเรียนนี่
..”
“อ๋อ หรอ เออดีแล้ว .. จะได้ไม่ต้องเดินทางไกลบ่อยๆ” ทำไมผมคิดว่าเสียงอีกคนตอนนี้เหมือนเสียงฟิวส์เวลาที่รู้ตัวว่าคิดไปเองจังเลยน้า
หึหึ
“ผมยังพูดไม่จบ ..
ไอ้เรื่องนั่งเครื่องบ่อยมันแค่ข้างอ้าง ที่จริงอยากมาหาพีคมากกว่า” ผมหันไปมองหน้าพีคที่ตอนนี้เขินจนปิดไม่มิดไปเรียบร้อยแล้ว
“มะ .. มึง มึงพูดเชี่ยไรเนี่ย แล้วมาผมมาพีคอะไรวะ กูขนลุก
ไม่ต้องมาสุภาพดิ๊” เขินอะไรเบอร์นั้นล่ะ หึหึ
(เริ่มรู้สึกว่าบูมโรคจิต TvT : ไรท์)
“กูอุตส่าห์จะให้มึงเป็นรุ่นพี่ที่น่ารัก มึงแม่งตัดบทกูเฉยเลย”
ผมแกล้งเซงใส่อีกคน
“ไม่ต้องมาแกล้ะ ..” ยังไม่ทันพูดจบ
“ภีมพล ! อย่าชวนน้องคุยสิ
ไว้ไปคุยกันตอนเรียนเสร็จ”
“ครับจารย์” พูดตอบด้วยเสียงหงอยๆ เฮ้อ เมื่อไหร่มันจะรู้ตัวนะ
ว่าตัวเองน่ารักทั้งเวลาที่เป็นฟิวส์และเวลาที่เป็นพีค ถ้ารู้ตัวไวๆก็คงดี
จะได้รู้ซักทีว่าผมรักมันแค่ไหน
PEAK Part.
โรงอาหาร
‘ที่จริงอยากมาหาพีคมากกว่า’
‘ที่จริงอยากมาหาพีคมากกว่า’
‘ที่จริงอยากมาหาพีคมากกว่า’
“โว๊ยยยยยยย ! หยุดคิดซะทีดิวะไอพีค
!” ผมเผลอตะโกนเสียงดังออกมาลั่นโรงอาหาร โอ๊ยย
อายชิบเลยแม่งเอ้ย
“มึงเป็นไรวะไอพีค
กูเห็นมึงนั่งเหม่อแล้วอยู่ๆก็ตะโกนออกมาซะดังเลย มึงคิดมากไรป่ะเนี่ย”
“กู .. กูเปล่าอ่ะ กูไปห้องพยาบาลก่อนนะ ปวดหัวว่ะ”
“อ้าวเห้ย ไอพีคเดี๋ยวดิ แล้วข้าวมึงอ้ะ !? ไอพี๊คคคคค !” ผมไม่ได้สนใจเสียงไอโอมที่ตะโกนไล่หลังมาเท่าไหร่
ผมรีบตรงดิ่งไปที่ห้องพยาบาล
หวังว่าจะนอนพักให้หัวโล่งแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะในตอนที่ผมล้มลงนอนบนเตียงผมก็เจอกับ
..
“นี่มึงอยากให้กูกอดทั้งในซีรี่ย์แล้วก็นอกซีรี่ย์เลยหรอวะ
หื้ม” เจอกับไอบูมที่นอนอยู่ก่อนกอดจากทางด้านหลังนี่ไงครับ T^T
“ใช่ก็เชี่ยแล้ว มึงอย่ามโนดิ๊
กูแค่อยากมานอนพักเฉยๆเหอะ” ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดนี้แต่เหมือนว่ายิ่งดิ้นมันจะยิ่งรัดแน่นขึ้น
อะไรมันแข็งแรงขนาดนั้นวะ ก็ผู้ชายเหมือนกันป่ะวะ -*-
“อย่าดิ้นดิ๊ รู้ว่าแรงน้อยก็ยังจะดิ้นอีกนะมึงเนี่ย”
ไอ้เด็กเชี่ยยยย
ผมเลิกดิ้นแล้วหันหน้าไปหันเพื่อที่จะได้คุยได้ถนัดๆแต่เหมือนผมจะคิดผิดอย่างแรงที่ทำแบบนั้น
“กูไม่ได้แรงน้อยนะเว้ย มึงนั่นแหละ ..” มันจ้องหน้าผมแล้วยิ้ม .. ครับ ยิ้มแบบที่ธีร์ชอบยิ้มให้พวกคุณละลายคาหน้าจอนั่นแหละ
แล้วอย่างผมนี่จะเหลืออะไร เขินสิครับ แม่งเอ้ยยยย
“กูทำไม หื้มมมม” ไอ้เสียงอ่อยๆนั่นมันคืออะไร๊
!!!!!!
“อะ .. อะไรเล่า มึง .. มึงแรงเยอะไง
แค่นี้ก็ต้องให้บอก แล้วมึงจะปล่อยได้ยังห๊ะ” ผมแกล้งโวยวายกลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเอง
“ไม่ปล่อย กูง่วงจะนอนแล้ว และมึงต้องเป็นหมอนข้างให้กู” ก็เชี่ยละ ..
“ไม่เอาโว๊ย หมอนข้างพ่องอ่ะ มึงเล่นไรเนี่ย มึงอย่าลืมดิวะว่าตอนนี้เราไม่ใช่ธีร์กับฟิวส์นะเว้ย อย่าทำแบบนี้ได้ป่ะวะ” ผมพยายามดิ้นอีกรอบ
“ทำไมมึงรู้ตัวช้าจังวะไอพีค” อยู่ๆมันก็พูดขึ้นมาแล้วลืมตามองผมด้วยสายตาที่จริงจังเหมือนที่ธีร์ใช่มองฟิวส์
..
“ระ .. รู้ตัวอะไรของมึงอีก”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งในกอง งานมีต ไปเที่ยว งานมินิคอน
มึงไม่รู้เลยหรอวะว่ากูรู้สึกยังไงกับมึง”
“มึงพูดอะไรเนี่ย กูไม่เล่นนะเว้ยไอบูม
อารมณ์ไหนของมึงเนี่ย” ผมพยายามผลักมันออก
“กูก็ไม่ได้เล่นไง ธีร์รู้สึกกับฟิวส์ยังไง
กูก็รู้สึกกับมึงแบบนั้น .. กูรู้ตัวมาตลอดว่ากูรู้สึกยังไง แต่มึง ..
มึงก็ไม่รู้ตัวซักที
จนซีรี่ย์แม่งจบซีซั่นแรกไปแล้วก็ยังไม่รู้ตัวว่ามึงรักกูหรือเปล่า
วันนี้กูจะเอาคำตอบจากมึงให้ได้” ผม ..
“มึงแน่ใจหรอวะว่ามันเป็นความรัก ..
มันแค่ช่วงเวลาไม่นานเองนะเว้ย แล้วมึงกับกูก็ผู้ชายทั้งคู่กู .. กูกลัวว่ะ”
ผมตอบไปตามตรง
“แล้วไอโอมกับพี่เต้ยไม่ใช่ผู้ชายหรอวะ
มันก็ผู้ชายทั้งคู่ทำไมมันกล้าเปิดเผยวะ ความรักมันไม่จำกัดเพศหรอกนะเว้ย
แค่มึงเปิดใจ แค่มึงกล้ายอมรับตัวเอง แค่มึงกล้าก้าวข้ามสิ่งที่มึงกลัวออกมา
ไม่ว่ามึงจะรักใครหรือเพศไหน มึงก็จะมีความสุขกับสิ่งที่มึงเลือก
ถ้าตอนนี้มึงบอกว่ามึงกลัว มึงก็ลองคิดถึงบทฟิวส์ที่มึงแสดงดู
แล้วบอกกูมาว่าตอนนั้นฟิวส์กลัวเหมือนมึงมั้ย
แล้วฟิวส์เลือกทางไหนเป็นคำตอบของตัวเอง”
ผมลองนึกย้อนไปตามคำพูดของมันทันที
ในตอนที่ผมเป็นฟิวส์ความรู้สึกฟิวส์คือกลัวว่าคนอื่นจะรู้ และสิ่งที่ฟิวส์เลือกไม่ใช่สายตาหรือคำพูดของคนอื่นแต่สิ่งที่ฟิวส์เลือกคือ
.. ธีร์
“ถ้ากูยอมรับตัวเอง .. กูจะมีความสุขจริงๆใช่ป่ะวะ”
ผมจ้องตามันพร้อมถามคำถามที่ผมต้องการคำตอบมากที่สุดออกไป
“มึงเป็นอะไร รู้สึกอะไรมึงก็แสดงมันออกมาเถอะ มึงรู้สึกดีป่ะล่ะที่ต้องปิดบังไม่แสดงออกความรู้สึกตัวเองทั้งที่จริงๆแล้วมึงรู้สึกจนแทบบ้า”
“กู ..”
“กูถามอีกทีนะ .. มึงรักกูเหมือนที่กูรักมึงหรือเปล่าพีค” มันจ้องตาผมอย่างจริงจัง
“กู .. อะ .. อืม” ผมพยักหน้าเบาๆแล้วมุดหน้าลงกับหมอนเพื่อปกปิดความเขินของตัวเองทันที
“อืมนี่หมายความว่าไงวะ กูไม่เห็นจะเข้าใจเลย หื้มมม”
ไอ้เด็กเชี่ยยยยยย
“รักมึงเหมือนกันโว๊ย ! ทำไมมึงต้องขี้แกล้งขนาดนี้ด้วยวะ
แม่งงง”
ผมถลึงตามองคนกวนตีนก่อนจะชะงักค้างเพราะใบหน้าที่ยื่นเข้ามาใกล้จนแทบจะชิดกัน
ลมหายใจร้อนผ่าวถูกส่งออกมากระทบกับใบหน้าอย่างแผ่วเบา สายตาที่สอดประสานกันโดยไม่ได้ตั้งใจ
ริมฝีปากที่ใกล้จนแทบจะประกบแนบชิดกัน .. ผมค่อยๆหลับตาลงช้า เพื่อรอรับสัมผัสที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อ
..
“ไอ้พีคเป็นไงมั่งวะ มึงกินยายัง
กูบอกพี่หมอเต้ยว่ามึงไม่สบายให้ช่วยดูให้หน่อย .. อะ อ้าววววว
แล้วทำไมไอ้คุณภีมพลถึงมานอนเตียงเดียวกับคุณกฤตภัคได้ละครับเนี่ย” มันยิ้มพร้อมเอ่ยแซวผมกับไอบูมทันทีโดยไม่ทันได้ดูว่ามันกำลังเฟสไทม์กับพวกพี่หมอเต้ยอยู่
‘เห้ยไอโอม
จริงอ่อวะที่มันสองคนนอนเตียงเดียวกันอ่ะ’
เสียงไอเชี่ยไนซ์นี่หว่า ชิบหายละ
“เออดิวะ
มึงดูดิ เจ้าบ่าวเจ้าสาวเขากำลังเข้าห้องหอกันอยู่เลย 55555555555” มันหันหล้องมาทางผมกับไอบูมที่นอนกอดกันอยู่บนเตียงผมเลยรีบลุกทันที
“พวกมึงแม่ง
หยุดเลยนะเว้ย แล้วมึงอ่ะ ยิ้มอะไรนักหนาวะ ไม่ช่วยกูเถียงเลยนะ” ผมหน้ามุ่ยใส่ไอบูมทันที
“มึงก็อย่าไปแกล้งมันดิวะโอม
แค่มันยอมบอกรักกูมันก็เขินจะตายห่าแล้ว 55555555555” แล้วมึงจะไปบอกเขาทำม๊ายยยยย
จบแล้วไอพีค จบแล้ววววว
“สรุปมันยอมพูดแล้วใช่ป่ะ
เหยดดดด มึงแม่งเจ๋งว่ะไม่เสียแรงที่พวกกูช่วยมึง อุ๊บส์! –x- ” ช่วย ?
“ไอ้เชี่ยโอม
มึงจะหลุดออกมาทำไมเนี่ย” ไอบูมรีบกระโดดตะครุบปากไอโอมแต่ก็ไม่ทันแล้ว
..
“มึงมีอะไรจะสารภาพมั้ยไอบูม
!” ผมหักนิ้วรอพร้อมที่จะเชือดไอ้แฟนหมาดๆของผมทันที -_-
“กูรักมึงนะพีค
ว๊ากกกกก อย่าทำกู๊ กูขอโทษษษษ TvT!!!”
หลังจากผมทำโทษไอบูมเสร็จก็จัดการไอโอมและเดอะแก๊งค์ต่อ
แล้วผมก็มารู้ทีหลังว่าที่ไอบูมย้ายมาเรียนที่เดียวกับผมได้เพราะพวกไอโอมช่วยอ้อนพ่อกับแม่มันให้
โดยอ้างว่าจะได้ไม่ต้องนั่งเครื่องบ่อยๆ อีกอย่างที่นี่ก็มีพี่หมอเต้ยคอยดูแลด้วย
งานนี้เรียกได้ว่ายกนักแสดงไปกันทั้งกองก็ว่าได้ แต่ที่ผมลงโทษมันไม่ใช่เพราะผมโกรธนะ
ผมแค่ไม่อยากให้มันโกหกอะไรป๊าม๊าเท่านั้นเอง เป็นห่วงน่ะครับ แต่ก็ ..
จากนี้ไปก็ไม่ต้องห่วงแล้วล่ะครับ เพราะมันจะมีผมคอยดูแลมันอยู่ข้างๆเสมอยังไงล่ะ
รักนะครับคุณกฤตภัค J
PEAK End Part.
END
Talk with writer.
สวัสดีค่ะ เป็นยังไงบ้างคะกับฟิคสั้นเรื่องนี้ สนุกหรือไม่สนุกบอกเราได้เลยนะ เพราะเราก็ยังอ่อนอยู่ ภาษาไม่สวยเท่าไหร่ ตอนนี้กำลังพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของการแต่งฟิควายของเราค่ะ ถ้าไม่ดีต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้ามีคู่ไหนที่อยากจะอ่านลองรีเควสมาได้นะคะ ถ้าเรามีเวลา+คิดพล๊อตออกเราจะแต่งมาอักลงให้อ่านค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ รักทุกคนค่า ^^
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ยัยหัวสี ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ยัยหัวสี
ความคิดเห็น